ประตูบ้าน มีกี่แบบ? เลือกแบบไหนดีให้เหมาะกับการใช้งาน

ประตูบ้านไม้สีน้ำตาลอ่อนติดตั้งหน้าบ้านสไตล์ร่วมสมัย พร้อมระเบียงไม้และเสาสีขาว

การเลือกประตูบ้านไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของดีไซน์หรือความสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความคุ้มค่าในระยะยาว หากเลือกประตูให้เหมาะสมกับห้องและสภาพแวดล้อม จะช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดปัญหาประตูบวม ผุ หรือเสื่อมสภาพเร็ว วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จัก ประตูบ้านแต่ละประเภท พร้อมเปรียบเทียบข้อดี–ข้อจำกัด และแนะนำวิธีเลือกให้ตรงกับความต้องการของคุณ

ประตู PVC

ประตู PVC ผลิตจากพลาสติก PVC มีคุณสมบัติเด่นคือ ทนความชื้น ไม่บวม และป้องกันปลวกได้ดี ตัวบานมีน้ำหนักเบา ราคาย่อมเยา และทำความสะอาดง่าย จึงนิยมใช้เป็น ประตูห้องน้ำหรือห้องครัว ที่มีความชื้นสูง อย่างไรก็ตาม ประตู PVC ไม่เหมาะสำหรับใช้งานภายนอก เพราะไม่ทนแดดและแรงกระแทก

ประตูไม้อัด

ประตูไม้อัด มีหลายแบบขึ้นอยู่กับชนิดไม้ที่นำมาอัด เช่น ไม้อัดยาง ไม้อัดสัก หรือไม้อัดแอช จุดเด่นคือราคาไม่สูงมาก น้ำหนักพอเหมาะ และดีไซน์เรียบง่าย เหมาะกับ การใช้งานภายในบ้าน เช่น ห้องนอน ห้องทำงาน

  • แบบ ไม้อัดภายใน → ใช้กาวธรรมดา ไม่เหมาะกับห้องที่มีความชื้น
  • แบบ ไม้อัดกันชื้น → ใช้กาวทนความชื้นได้มากกว่า แต่ยังไม่แนะนำสำหรับภายนอกบ้าน

ประตู HDF

ประตู HDF (High-Density Fiberboard) ผลิตจากแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นสูง ผ่านการอัดด้วยแรงดันและความร้อน มีความแข็งแรง น้ำหนักเบา และราคาย่อมเยา จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับ ห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องเก็บของ

ข้อควรระวังคือ HDF ไม่ทนน้ำ หากโดนชื้นบ่อยอาจบวมและเสียรูปได้ จึงไม่เหมาะกับห้องน้ำหรือพื้นที่ภายนอก

ประตูเมลามีน & ประตูลามิเนต (HPL)

  • ประตูเมลามีน → ใช้โครงสร้างใกล้เคียง HDF แต่ปิดผิวด้วยเมลามีน มีให้เลือกทั้งสีพื้นและลายไม้ ทนรอยขีดข่วน ดูทันสมัย เหมาะสำหรับบ้านหรือคอนโดสมัยใหม่
  • ประตูลามิเนต (HPL) → ปิดผิวด้วยลามิเนตที่ทนต่อความร้อน รอยขีดข่วน และความชื้นได้ดีกว่าเมลามีน ใช้ได้ทั้งแบบกันเสียง กันชื้น และทนไฟ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประตูที่สวยงามและมีฟังก์ชันครบ

 

ประตู UPVC

ประตู UPVC ผลิตจากไวนิลสังเคราะห์ มีโครงภายในเสริมด้วยโฟมโพลีสไตรีนหรือไม้สังเคราะห์ ทำให้แข็งแรงและทนทาน คุณสมบัติเด่นคือ ทนน้ำ ไม่บวม ไม่ลามไฟ และกันเสียงได้ดี

  • รุ่นทั่วไป → เหมาะสำหรับใช้งานภายใน เช่น ห้องน้ำ
  • รุ่นเกรด ECO → ใช้ได้ทั้งภายในและบางพื้นที่ภายนอก หากเลือกสีขาว เทา หรือเบจ
  • รุ่นเกรด Premium → แข็งแรงกว่า ปรับแต่งบานได้มาก เหมาะกับการใช้เป็น ประตูภายนอกบ้าน



วิธีเลือกประตูบ้านให้เหมาะกับห้อง

การเลือกประตูที่เหมาะสมกับพื้นที่ช่วยยืดอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

  • ห้องน้ำ → PVC หรือ UPVC (เพราะทนน้ำและไม่บวม)
  • ห้องนอน/ห้องทำงาน → HDF, ไม้อัด หรือเมลามีน (เน้นสวยงามและราคาคุ้มค่า)
  • ห้องครัว → PVC หรือ UPVC (ทนความชื้นและไอน้ำ)
  • ภายนอกบ้าน → UPVC เกรดพรีเมียม หรือไม้จริง (แข็งแรง ทนแดด ทนฝน)
  • บ้านสมัยใหม่ → ประตูเมลามีนหรือประตูลามิเนต (ลายไม้หลากหลาย ดีไซน์ทันสมัย)


เกี่ยวกับประตูบ้าน

Q: ประตูห้องน้ำควรใช้แบบไหนดี?
A: แนะนำประตู PVC หรือ UPVC เพราะทนชื้นและไม่บวม

Q: ประตู HDF ใช้ภายนอกได้ไหม?
A: ไม่ควรใช้ เพราะไม่ทนความชื้นและอาจบวมเมื่อโดนน้ำ

Q: ประตู UPVC ต่างจาก PVC อย่างไร?
A: UPVC แข็งแรงกว่า มีรุ่นที่ใช้ภายนอกได้ ขณะที่ PVC เหมาะกับการใช้งานภายในเท่านั้น

Q: ประตูบ้านราคาเท่าไหร่?
A: เริ่มตั้งแต่หลักพันบาท (PVC) ไปจนถึงหลายพันบาท (UPVC พรีเมียม หรือไม้จริง)

Q: เลือกประตูบ้านยังไงให้เหมาะ?
A: ดูจากตำแหน่งการใช้งาน (ภายใน/ภายนอก), ระดับความชื้น, ดีไซน์ที่ต้องการ และงบประมาณ

เมื่อเข้าใจข้อดี–ข้อเสียของประตูบ้านแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็น PVC, UPVC, HDF, ไม้อัด หรือเมลามีน คุณจะสามารถเลือกได้ตรงกับห้องและความต้องการจริงมากขึ้น หากต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมหรือขอใบเสนอราคา ติดต่อทีมงาน DEAL DEE MATERIAL ผู้เชี่ยวชาญด้านประตูและวงกบ ที่พร้อมแนะนำและจัดส่งทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล

เมื่อเรารู้จักคุณสมบัติของประตูบ้านแต่ละชนิด นอกจากความสวยงานแล้ว เราจะสามารถเลือกประตูบ้านได้อย่างเหมาะสมกับพื้นที่ใช้งานด้วย

หากต้องการคำแนะนำหรือรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประตูบ้าน สามารถติดต่อได้ที่

    

 

Visitors: 21,802